บริหารอย่างไรถึงจะครองใจลูกน้อง
บริหารอย่างไรถึงจะครองใจลูกน้อง
การชื้อใจคน อย่าอ่อนเกินไปจนลูกน้องไม่เคารพ อย่าแข็งเกินไปจนไม่สามารถทำงานได้ แต่จงทำดีเพื่อที่ให้ลูกน้องยอมรับและปฏิบัติตาม เข้าใจเห็นใจลูกน้อง ผู้บังคับบัญชาไม่ใช่มองขึ้นสูงอย่างเดียวจะต้องมองต่ำบ้างเพื่อให้เห็นปัญหาของลูกน้องและสามารถเข้าใจ เข้าถึง และแก้ไขปัญหาได้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องบริหารใจคนให้ได้ หากไม่ได้ใจแล้วโอกาสที่จะได้รับความร่วมมือจึงเป็นไปได้ยาก จึงขอแนะนำเทคนิคการครองใจเพื่อสร้างงานและสร้างความสำเร็จเพื่อใช้เป็นแนวปฏิบัติสำหรับผู้บริหาร ที่ต้องการความสำเร็จ ดังนี้
1. ต้องมีภาวะผู้นำสูง กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก กล้าให้การสนับสนุนเพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าให้แก่ลูกน้อง ให้ความเป็นธรรม ไม่ลำเอียง อย่าเป็นผู้แบ่งพรรคแบ่งพวกเสียเอง ควรสร้างวัฒนธรรม การประจบด้วยผลงาน มากกว่าการประจบสอพลอ เพื่อขอเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง
2. การสั่งการและมอบหมายงานควรใช้มธุรสวาจา มีความสุภาพ ให้เกียรติผู้อื่น รับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะอย่างตั้งใจ มีความอ่อนหวาน และให้กำลังใจ อย่าติ หรือตำหนิลูกน้องต่อหน้าผู้คนจำนวนมากหรือในที่สาธารณชนโดยเด็ดขาด และต้องกล่าวชมอย่างสม่ำเสมอ เมื่อเขาทำงานได้ดี
3. รักษาน้ำใจของลูกน้องและเพื่อนร่วมงาน อย่าแก้ไขงานหนังสือบ่อยๆ ควรดูให้เสร็จในคราวเดียว แก้ซ้ำๆ ซากในหนังสือฉบับเดียวหากเกิดจากเราแก้ไขหรือเพิ่มเติมไม่ครบถ้วน ก็จะต้องขอโทษเขา เพราะความผิดพลาดเกิดจากเรา ที่เป็นเหตุทำให้เขาต้องพิมพ์ใหม่ ทำใหม่
4. รู้จักใช้งานด้วยความเกรงใจ และเข้าใจถึงความจำเป็นส่วนตัว เช่น ลูกน้องบ้านอยู่ไกล ก็ไม่ควรใช้งานในเวลาใกล้เลิกงานเพราะนอกจากคุณภาพของงานจะไม่ดีแล้ว ยังสร้างความกดดันให้แก่ลูกน้องอีกด้วย
5. ใช้คนให้เหมาะกับงาน ใครถนัดอะไร ชอบอะไรให้เขาทำ เขาจะทำอย่างเต็มที่เพราะมีความสุขในการทำงานและสิ่งที่ได้คือผลงานจะออกมาดี หากให้ทำงานที่เขาไม่ถนัด ไม่มีประสบการณ์ในด้านนั้นๆ มาก่อน นอกจากผลงานจะไม่เกิดแล้ว ยังต้องเสียทั้งเงินและเวลาอีกด้วย
6. อย่าทำลายบรรยากาศในการทำงานด้วยการระเบิดอารมณ์ใส่ลูกน้อง ต้องพิจารณาความผิดนั้น โดยแก้ไขที่ตนเอง ต้องเลิกนิสัย วางท่า วางอำนาจ จนใหญ่คับห้อง นอกจากไม่ได้ใจแล้วยังถูกนินทาลับหลังเสมอ จะขอความร่วมมือจากใครก็จะได้รับการปฏิเสธทันที
7. หากลูกน้องทำผิดในด้านใด ไม่ควรต่อว่าในทันที ต้องมาตรวจสอบดูว่า เราสั่งผิดหรือไม่ หากไม่เป็นเพราะเราสั่งผิด แต่เป็นเพราะเขาทำไม่ถูกก็ต้องมาสอนงานและแนะนำให้ถูกต้องอย่าให้เขาทำเอง คิดเอง สุดท้ายงานก็จะไม่ประสบความสำเร็จสักที
8. หากเอกสารที่ผ่านเราไปเกิดผิดพลาด ไม่ควรโทษลูกน้อง เพราะเราเองก็มีส่วนผิดเหมือนกัน ที่ปล่อยให้เอกสารนั้นผ่านเราไป โดยมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น อย่าเซ็นผ่านไปโดยไม่มีการตรวจสอบ หากผิดพลาดขึ้นมาจำไว้เลยว่า คุณนั่นแหล่ะคือคนแรกที่จะถูกตำหนิก่อนใคร
9. ทำตัวเป็นครูที่ดี แม่ที่ดี ต้องกล้าพูด กล้าสอน ในสิ่งที่ดี และเป็นตัวอย่างที่ดี หากผู้บริหารทำผิดระเบียบของหน่วยงานเสียเองแล้วคุณจะไปว่ากล่าวลูกน้องได้อย่างไร ดังนั้น จะสอนคนอื่นต้องสอนตัวเองให้ดีก่อน
10. ต้องปกป้อง สนับสนุน ลูกน้องที่ดี เมื่อเขาทำงานให้เราอย่างเต็มที่การพิจารณาความดี ความชอบก็ต้องเต็มร้อย เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงาน และเมื่อใดที่เขาทำผิดก็ต้องตักเตือนลงโทษลูกน้องที่ทำผิดอย่าปล่อยไว้ จนกลายเป็นวัฒนธรรมที่ไม่ดีไปเพราะทำผิด ก็ไม่ถูกลงโทษ จึงเป็นเยี่ยงอย่างแก่คนอื่นให้นำไปปฏิบัติบ้าง
11. ไปร่วมงานส่วนตัวของลูกน้องตามโอกาสอันควร เช่น งานศพญาติ งานบวช งานแต่ง
12. มีอารมณ์ขันอยู่เสมอ แต่ไม่พร่ำเพรื่อ วางตัวให้เหมาะสมกับการเป็นหัวหน้า อย่าพูดส่อเสียด สองแง่สองง่าม
13. เป็นผู้ประสานรอยร้าวและความขัดแย้งที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน หรือเรื่องส่วนตัว
14. หมั่นพัฒนาตนเอง และเรียนรู้งานอยู่เสมอ ให้สมกับเป็นหัวหน้า มีใช่ต้องถามลูกน้องอยู่เรื่อยๆ จะปฏิเสธว่าตนเองไม่รู้ไม่ถนัดไม่ได้ เพราะเราเป็นหัวหน้ามิใช่ลูกน้อง ลูกน้องไม่รู้เราต้องสอนงาน หากเราไม่รู้ซะเองจะสอนงานใครได้ล่ะ จึงต้องรีบไขว่คว้าหาความรู้อยู่เสมอ และต้องคิดเสมอว่า ไม่มีสิ่งใดจะยากเกินกว่าความสามารถของเรา
นอกจากนั้น ก็เป็นเรื่องของความอะลุ่มอล่วย ให้ความเป็นกันเอง ให้ความช่วยเหลือ ถามถึงทุกข์สุข เพราะคนไม่ได้อยู่กับงานตลอดเวลา คนนอกจากจะมีชีวิตงานแล้ว เขาก็จะต้องมีชีวิตส่วนตัว ชีวิตครอบครัว เพราะฉะนั้นผู้บริหารงานจำเป็นต้องมองให้เห็นตรงนี้ด้วย