TH | EN


วันที่เพิ่มข้อมูล : 4 march 2559
มีผู้เข้าชมทั้งหมด : 785 ครั้ง

ฉุนขาด ฆ่าเพื่อนร่วมชาติ

 

 

 

หนุ่มก่อสร้าง ชาติเดียวกัน! อ้างฉุนถูกด่า

คนงานก่อสร้างชาวเมียนมาฆ่า อำมหิตแม่บ้านโครงการก่อสร้าง ชาติเดียวกัน รัวด้วยหมัดล้มหัวฟาดพื้นแล้วบีบคอซ้ำตายคามือ จากนั้นนำผ้าใบมาห่อศพซุกช่องเก็บของภายในบ้านทาวน์เฮาส์ที่อยู่ ระหว่างการก่อสร้าง ตกดึกเห็นปลอดคนแอบนำศพใส่รถเข็นไปเผาอำพรางคดี เพื่อนคนงานเห็นผิดสังเกตคุมตัวส่งตำรวจ อ้างแค้นถูกผู้ตายด่าทอ แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ

คนงานชาวเมียนมาก่อเหตุฆ่าแล้วเผาแม่บ้านโครงการก่อสร้างรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 15.30น. วันที่ 3 มี.ค. ร.ต.อ.วัฒนกิจ ยอดอาจ รอง สว. (สอบสวน) สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบชิ้นส่วนมนุษย์ถูกเผาภายในหมู่บ้านนิรันดร์วิลล์ 12 ถนนวัดศรีวารีน้อย หมู่ 8 ต.บางโฉลง และได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้เป็นชายชาวเมียนมา 1 คน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.พัลลภ แอร่มหล้า ผกก. พ.ต.ท.เชาว์ ป้อมงาม รอง ผกก.สส. และชุดสืบสวน ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น เลขที่ 63/163 ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง พบตัวนายมิน ชิต อู อายุ 30 ปี ชาวเมียนมา ถูกเพื่อนคนงานก่อสร้างสัญชาติเดียวกันคุมตัวไว้ ตรวจค้นในตัวพบสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 2 เส้น ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกง ห่างออกไปประมาณ 500 เมตร บริเวณท้ายหมู่บ้าน เป็นเนินดินที่ทิ้งขยะ พบโครงกระดูกมนุษย์ถูกเผาไหม้ดำเกือบหมด เหลือเพียงกะโหลกและซี่โครงด้านขวา กองอยู่บนแผ่นสังกะสี มีเศษไม้หลงเหลือบางส่วน จึงประสานเจ้าหน้าที่ พฐ.ภ.จ.สมุทรปราการ เข้ามาตรวจสอบ เก็บชิ้นส่วนที่เหลือนำส่งสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง

ต่อมาได้มีนางเมย อายุ 45 ปี ชาวพม่า และเป็นแม่บ้านของโครงการ เข้ามาดูสภาพศพที่เหลืออยู่พร้อมระบุผ่านล่ามว่า ศพที่พบน่าจะเป็นศพน้องสาวชื่อ นางเอตัน อายุ 40 ปี เป็นแม่บ้านของโครงการเช่นเดียวกัน โดยเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา น้องสาวขอไปอาบน้ำที่บ้านอีกหลัง อยู่ติดกับบ้านเลขที่ 63/163 และอยู่หลังบ้านที่ตนนั่งพักกินข้าว จากนั้นราว 30 นาทีได้ยินเสียงดังแอ๊กๆ 2 ครั้ง เมื่อชะโงกหน้าออกไปดูเห็นนายมิน ชิต อู ก้มถูพื้น แต่ไม่ได้สนใจ กระทั่งตกเย็นหลังเลิกงานก็ไม่พบตัวน้องสาว ชวนญาติและทุกคนในไซต์งานช่วยกันออกตามหาทั้งคืนก็ไม่พบ วันนี้จึงเข้าไปดูที่บ้านเกิดเหตุอีกครั้ง พบมีรอยคราบเลือดจางๆที่ถูกเช็ดล้างไปแล้ว และเมื่อเดินไปบริเวณที่ทิ้งขยะก็พบโครงกระดูกถูกเผาไฟไหม้หมด ด้วยความสงสัยแจ้งให้เจ้าหน้าที่โครงการทราบ ช่วยกันคุมตัวนายมิน ชิต อู เอาไว้ เพราะสงสัยว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของน้องสาว

ในขณะที่นายมิน ชิต อู ให้การรับสารภาพว่า ชิ้นส่วนโครงกระดูกที่เหลือจากไฟไหม้นั้นเป็นของนางเอตัน และรับว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่า เนื่องจากโมโหที่ผู้ตายด่าถึงบุพการี ดยก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้ดื่มสุราจนถึงเช้าของวันที่ 2 มี.ค. จากนั้นไปนอนพักที่บ้านหลังเกิดเหตุ ตื่นขึ้นมาอีกทีช่วงเที่ยง หันไปมองนอกหน้าต่างเห็นผู้ตายยืนอยู่ โดยผู้ตายถามว่า มองทำไม ทำให้เกิดมีปากเสียงทะเลาะกัน และถูกผู้ตายบุกเข้ามาในบ้านใช้มือตบหน้าอย่างแรง ด้วยความโมโหประกอบกับเมาค้าง จึงชกเข้าไปที่ลำคอผู้ตาย 2 ครั้ง ล้มลงหัวกระแทกพื้นเลือดอาบ จากนั้นเข้าไปใช้มือบีบคอซ้ำจนร่างแน่นิ่งเสียชีวิต ตนกลัวความผิดจะถึงตัว นำผ้าใบพลาสติกมาห่อศพแล้วลากศพไปซ่อนไว้ในช่องเก็บของ แล้วออกไปทำงานตามปกติ

นายมิน ชิต อู ให้การอีกว่า ตกดึกเห็นปลอดคนนำศพใส่รถเข็นออกไปเผาที่บริเวณจุดทิ้งขยะเพื่ออำพรางคดี จากนั้นกลับไปนอนทำทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งถูกควบคุมตัวไว้ ส่วนสร้อยคอก็หยิบออกมาจากกระเป๋าของผู้ตาย เบื้องต้นตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การว่าแรงจูงใจของการฆ่านั้นมาจากการถูกด่าทอและฆ่าชิงทรัพย์ ส่วนจะก่อเหตุข่มขืนด้วยหรือไม่นั้น ต้องนำตัวส่งตรวจร่างกายโดยละเอียดอีกครั้ง เพราะพบว่าผู้ต้องหาได้โกนขนเพชรออกจนหมดเกลี้ยง หลังสอบปากคำตำรวจนำตัวนายมิน ชิต อู ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พร้อมแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ลักทรัพย์ และ เผาทำลายศพอำพรางคดี ควบคุมตัวดำเนินคดี

**แม้จะอ้างว่าโมโหที่ถูกด่า ก็ไม่สามารถที่จะอ้างบันดาลโทสะเพื่อให้เหตุลดโทษได้ เนื่องจากการบันดาลโทสะจะต้องถึงขนาดที่ถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่ธรรม จึงได้กระทำความผิด ป.อาญา มาตรา 72 **

 

ที่มา http://www.thairath.co.th/

ที่มาภาพ http://www.thairath.co.th/