TH | EN


วันที่เพิ่มข้อมูล : 20 december 2562
มีผู้เข้าชมทั้งหมด : 728 ครั้ง

เรียกร้องประหารนายสมคิด พุ่มพวง -ชี้เป็นตัวอันตราย

             

 ชาวบ้านขอนแก่นรวมตัวเป็นหนึ่ง ถือป้ายเรียกร้องประหารชีวิต 

      คิด เดอะริปเปอร์ หรือ สมคิด พุ่มพวง ฆาตกรต่อเนื่อง 6 ศพ 

      จากกรณี นายสมคิด พุ่มพวง ถูกจับกุมได้ที่สถานีรถไฟ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2562 ล่าสุด ในวันนี้ (19 ธันวาคม) ตำรวจได้ควบคุมตัว นายสมคิด พุ่มพวง ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในเขตเทศบาลตำบลหนองโก อ.กระนวน จ.ขอนแก่น แต่มีประชาชนมารวมตัวกันหน้าโรงพักกระนวนจำนวนมาก พร้อมร่วมใจตะโกนเรียกร้องให้ประหารชีวิตนายสมคิด

      โดยตัวแทนประชาชนได้เผยว่า นายสมคิดควรได้รับโทษประหาร ไม่ควรให้ได้อยู่ร่วมโลกกับมนุษย์ เพราะสิ่งที่เขาทำนั้นโหดร้ายเกินไป เขาไม่ใช่คนบ้า ไม่ใช่คนสติไม่ดี เขาฆ่ามาตั้งหลายศพไม่จบไม่สิ้น ควรประหารชีวิตสถานเดียวเท่านั้น

 

     จากกรณีข่าว นายสมคิด พุ่มพวง  สมควรได้รับโทษอย่างไรตามกฎหมาย ?

      มาตรา 288 ความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา   

       ผู้ใดฆ่าผู้อื่น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี

      มาตรา 288 มีองค์ประกอบดังต่อไปนี้
     ผู้ใด
     ฆ่า
     ผู้อื่น
    เจตนา

คำอธิบาย
       ฆ่า หมายความว่า การกระทำอันเป็นเหตุให้คนตาย หรือการกระทำให้บุคคลที่มีชีวิตอยู่ถึงแก่ความตาย กฎหมายไม่ได้จำกัดลักษณะของการกระทำในการฆ่าไว้ ผู้กระทำจะกระทำด้วยวิธีการใดๆ ก็ได้ เช่น ใช้ปืนยิง ใช้มีดแทง ขับรถยนต์ชน กดให้จมน้ำ หรือบังคับให้ดื่มยาพิษ เป็นต้น รวมทั้งการทำร้ายทางจิตใจ เช่น แกล้งบอกข่าวร้ายแก่คนป่วยจวนจะตายให้ตกใจตาย
       การกระทำ คือการฆ่านั้นหมายความรวมถึงการให้เกิดผลอันใดขึ้น โดยงดวันการที่จะต้องกระทำเพื่อป้องกันผลนั้นด้วย ตามมาตรา 59 วรรคท้าย เช่น มารดาซึ่งมีหน้าที่ให้บุตรกินนม แต่งดเว้นไม่ให้นมบุตรกินโดยเจตนาให้บุตรถึงแก่ความตาย เป็นต้น
         การกระทำให้ผู้อื่นตาย ซึ่งจะถือได้ว่าเป็นการฆ่านั้น ความตายของผู้อื่นนั้นจะต้องเป็นผลโดยตรงจากการกระทำนั้น ตามหลักแห่งความสัมพันธ์ระหว่างเหตุกับผลตามทฤษฎีเงื่อนไข
การฆ่านั้นอาจกระทำโดยทางอ้อมก็ได้ เช่น แพทย์หลอกพยาบาลให้วางยาพิษคนไข้โดยบอกว่าเป็นยาบำรุงกำลัง เป็นต้น
สรุปว่าการฆ่าคือการทำด้วยประการใดๆ ให้คนตาย
ผู้อื่น หมายความว่าบุคคลอื่นและบุคคลอื่นนั้นต้องมีชีวิตอยู่ ดังนั้นการพยายามฆ่าตนเองจึงไม่มีความผิด และการยิงคนที่ตายแล้วโดยเข้าใจว่ายังมีชีวิตอยู่ก็ไม่มีความผิดเช่นกัน เพราะขาดองค์ประกอบความผิดฐานฆ่าผู้อื่น
นอกจากนั้น ผู้อื่นนั้นต้องมีสภาพบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 15 ด้วย ดังนั้นการฆ่าทารกในครรภ์มารดายังไม่มีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตามมาตรา 288 เพราะทารกในครรภ์มารดายังไม่มีสภาพบุคคล เพราะมาตรา 15 ดังกล่าวบัญญัติว่า “สภาพบุคคลย่อมเริ่มแต่เมื่อคลอดแล้วอยู่รอดเป็นทารกและสิ้นสุดลงเมื่อตาย” การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐานทำให้แท้งลูกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 301 ถึง 305 แล้วแต่กรณี

        โดยเจตนา หมายถึง ผู้กระทำต้องมีเจตนาตามมาตรา 59 วรรคสอง ที่จะทำให้ผู้ถูกฆ่าถึงแก่ความตาย โดยเหตุนี้ในตำราจึงเรียกความผิดนี้ว่า ความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา

 ข้อควรจำ
     ประเด็นที่ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าหรือไม่โดยอาศัยพฤติกรรมต่างๆ เช่น ชนิดและความร้ายแรงของอาวุธที่ใช้ทำร้าย ความรุนแรงในการทำร้ายลักษณะของบาดแผลที่ถูกทำร้าย ส่วนของร่างกายที่ถูกทำร้าย มีความมุ่งหมายที่จะทำร้ายให้ถูกที่สำคัญของร่างกายหรือไม่ รวมถึงพฤติการณ์อื่นๆ เช่น การกระทำซ้ำเติมและคำพูดในขณะกระทำร้าย หรือใกล้ชิดกับการกระทำร้าย เป็นต้น

       กรณีการกระของ นายสมคิด ถือเป็นการกระทำโดยรู้สำนึกในการกระทำ และในขณะเดียวกันผู้กระทำประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลว่าการกระทำที่ได้ทำลงไปจะทำให้เขาเสียหายถึงชีวิต ดังนั้น นายสมคิด มีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามมาตรา  288 ประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งมีโทษ  ผู้ใดฆ่าผู้อื่น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี