TH | EN


วันที่เพิ่มข้อมูล : 23 july 2562
มีผู้เข้าชมทั้งหมด : 1260 ครั้ง

‘หัวเว่ย’ ปลดพนักงานในสหรัฐฯ กว่า 600 ตำแหน่ง เซ่นพิษสงครามการค้า

       แผนกวิจัย ‘หัวเว่ย’ ปลดพนักงานในสหรัฐฯ กว่า 600 ตำแหน่ง เซ่นพิษสงครามการค้า

 

             รอยเตอร์ - หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ ยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมสัญชาติจีน ประกาศปลดพนักงานมากกว่า 600 ตำแหน่ง หรือกว่า 70% ในบริษัท ฟิวเจอร์เว่ย เทคโนโลยีส์ ซึ่งเป็นแผนกวิจัยและพัฒนาที่ดำเนินกิจการอยู่ในสหรัฐฯ หลังถูกรัฐบาลอเมริกันสั่งขึ้นบัญชีดำ

            ฟิวเจอร์เว่ย ซึ่งว่าจ้างพนักงาน 850 คนในสหรัฐฯ เริ่มเลย์ออฟพนักงานตั้งแต่วันจันทร์ (22 ก.ค.) ตามคำบอกเล่าของพนักงานหลายคนที่ได้รับซองขาวเลิกจ้างจากแล็บปฏิบัติการที่ซิลิคอนแวลลีย์

         หัวเว่ย ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของโลกถูกกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ สั่งขึ้นบัญชีองค์กรที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ หรือ ‘entity list’ ในเดือน พ.ค. และยังถูกกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยื่นฟ้องฐานขโมยความลับทางการค้าและความผิดอาญาอื่นๆ

          หัวเว่ย ระบุในคำแถลงว่า คำสั่งปลดพนักงานซึ่งมีผลบังคับเมื่อวันที่ 22 ก.ค. เกิดจากการที่บริษัทจำเป็นต้องปรับลดการดำเนินธุรกิจ และเป็นผลมาจากมาตรการเล่นงานของรัฐบาลสหรัฐฯ

          คำสั่งของวอชิงตันมีผลทำให้การถ่ายโอนเทคโนโลยีเปราะบางจากฟิวเจอร์เว่ยไปยังบริษัทแม่กลายเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย อีกทั้งมาตรการขึ้นบัญชีดำยังทำให้หัวเว่ยไม่สามารถซื้อชิ้นส่วนจากบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ ได้ด้วย

          พนักงานผู้ไม่ประสงค์ออกนามคนหนึ่งบอกกับรอยเตอร์ว่าเขาเป็นคนหนึ่งที่ถูกเลย์ออฟ และยังมีพนักงานอีกอย่างน้อย 6-7 คนถือกล่องใส่สัมภาระเดินออกจากสำนักงานฟิวเจอร์เว่ยในช่วงก่อนเที่ยงวันจันทร์ (22)

         หน่วยวิจัยและพัฒนาของหัวเว่ยแห่งนี้ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับนักวิจัยและมหาวิทยาลัยในอเมริกา โดยมีต้นทุนการปฏิบัติงานราว 510 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2018 

        ฟิวเจอร์เว่ยซึ่งมีสำนักงานอยู่ในซิลิคอนแวลลีย์, เกรทเตอร์ซีแอตเติล, ชิคาโก และดัลลัส ได้มีการยื่นจดสิทธิบัตรมากกว่า 2,100 รายการในด้านโทรคมนาคม, เครือข่ายไร้สาย 5G รวมถึงเทคโนโลยีด้านวิดีโอและกล้อง ตามข้อมูลจากสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของสหรัฐฯ

         พนักงานฟิวเจอร์เว่ยคนหนึ่งที่ไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการเลิกจ้างระบุว่า หน่วยวิจัยแห่งนี้ได้ระงับกิจการมาตั้งแต่หัวเว่ยถูกขึ้นบัญชีดำ
 


“เมื่อวันที่ 17 พ.ค. หัวเว่ยได้สั่งให้พนักงานทุกคนในฟิวเจอร์เว่ยอัปโหลดข้อมูลทุกอย่างลงในระบบคลาวด์ ก่อนที่คำสั่งแบนจะเริ่มมีผลบังคับ” พนักงานคนดังกล่าวเผย “หลังจากนั้นมา ฟิวเจอร์เว่ยก็ยุติการปฏิบัติงานแทบทุกอย่าง”
 

สำนักงานของหัวเว่ย และฟิวเจอร์เว่ย เทคโนโลยีส์ ในเมืองแซนตาคลารา รัฐแคลิฟอร์เนีย
 

สำนักงานของหัวเว่ย และฟิวเจอร์เว่ย เทคโนโลยีส์ ในเมืองแซนตาคลารา รัฐแคลิฟอร์เนีย